“น้องนอนไม่หลับ หัวใจมันกระสับกระส่ายยย” แอดมิน My Shape มาแล้วค่าาา มาพร้อมกับเพลงฮิตติดหูแอดมินในช่วงนี้ เพราะอะไรถึงติดหูหนะหรอคะ ก็เพราะช่วงนี้แอดมินมีอาการนอนไม่หลับ หลับยากมากมายเลยค่ะ พออาการเครียดมาเยือนทีไร รู้ตัวอีกทีคือเช้าแล้วค่ะ สรุปว่าไม่ได้นอนทั้งคืน! ใช้ชีวิตแบบนี้สุขภาพพังแน่นอนค่ะ แอดมินเลยต้องหาวิธีแก้อาการนอนไม่หลับอย่างเร่งด่วน พอดีมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนและแนะนำมาว่า “ออกกำลังกายก่อนนอนสิ” แอดมินได้ยินแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ออกกำลังกายก่อนนอน ดีไหม? เลยเป็นลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มา เลยอยากนำมาแชร์ให้ทุกคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ หลับยาก เหมือนแอดมินได้เปิดโลกไปพร้อม ๆ กันค่ะ ไปดูกันเลย!
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ ได้ที่นี่เลยค่ะ
สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ
อาการนอนไม่หลับหรือหลับยาก เป็นอาการที่มักมีผลกระทบต่อจิตใจมาก่อนค่ะ หากมีเรื่องกระทบต่อจิตใจทำให้กังวล คิดมาก จะทำให้เราข่มตาหลับได้ยาก เพราะมีเรื่องที่ทำให้เราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา จนทำให้นอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งอาการหลับยากนี้จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ และหากมีอาการนอนไม่หลับมากกว่า 1 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์นะคะ เพราะปัญหานอนหลับยากนี้อาจส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการเรียน การทำงาน เพราะมีอาการง่วง อ่อนเพลีย หรือหากต้องทำอาชีพเกี่ยวกับการขับรถและทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรนี่ยิ่งอันตรายใหญ่เลยค่ะ
เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะว่า นอนไม่หลับเกิดจากอะไร โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นปัจจัยทางด้านกายภาพ ทางด้านจิตใจ และทางด้านสภาพแวดล้อมค่ะ

ปัจจัยทางด้านกายภาพ
- มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับ เช่น ไอเรื้อรัง หรือ ปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน ฯลฯ
- ความผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น อาการคัดจมูกจากไข้หวัด หรือ มีอาการนอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ฯลฯ
- ร่างกายได้รับสารกระตุ้นบางอย่าง เช่น ดื่มชา, กาแฟ, น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ปัจจัยทางด้านจิตใจ
- สถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น ภาวะกดดันจากการทำงาน, ความเครียด, ความเสียใจ หรือไม่สบายใจกับเหตุการณ์บางอย่าง
- โรคทางจิตเวช เช่น โรคเครียด, โรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล ฯลฯ
ปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อม
- ปัญหาสิ่งแวดล้อมในห้องนอน เช่น มีแสงสว่างเกินไป, มีกลิ่นไม่พึงประสงค์, มีเสียงดังรบกวน อากาศร้อนไปหรือเย็นเกินไป หรือเตียงนอนที่แข็งไป นิ่มไป นอนแล้วไม่สบายตัว ฯลฯ
- ไม่คุ้นชินกับสถานที่ การที่ต้องเปลี่ยนสถานที่นอนใหม่ จนเกิดความไม่คุ้นและทำให้หลับยาก นอนไม่หลับ
- นอนไม่เป็นเวลา ในบางอาชีพที่ต้องทำงานเป็นกะ ทำให้การนอนหลับไม่เป็นเวลา นอนหลับยาก
ออกกำลังกายก่อนนอน ดีไหม
การออกกำลังกายใครก็รู้ว่ามันมีแต่ข้อด๊ ไม่ส่งผลเสียกับร่างกายเราถูกไหมคะ แต่การออกกำลังกายถ้าไม่ถูกที่ถูกเวลาก็เกิดโทษกับร่างกายเราได้เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะช่วงเวลาจะเข้านอน หลายคนเข้าใจว่าการออกกำลังกายก่อนนอนจะเป็นวิธีแก้อาการนอนไม่หลับได้ อันนี้จริงค่ะ แต่…เราต้องเลือกช่วงเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสม ไม่งั้นการออกกำลังกายแล้วนอนไม่หลับจะมาเยือนแทนค่ะ!
การออกกำลังกายก่อนนอน ดีไหม? จากที่แอดมินได้ค้นหาข้อมูลและสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญก็พบว่า การออกกำลังกายก่อนนอนเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องออกกำลังกายชนิดเบา เช่น ท่าบริหารยืดเหยียดตัว, โยคะ หรือแอโรบิค ซึ่งควรออกกำลังกายก่อนเข้านอนประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไปค่ะ เพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักก่อนจะเข้าสู่โหมดความผ่อนคลายก่อนนอนนะคะ

ใครที่คิดว่าออกกำลังกายแล้วนอนทันทีจะเป็นสิ่งที่ดี อันนี้คิดผิดนะคะ เนื่องจากระหว่างการออกกำลังกาย ร่างกายเราจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินและอะดรีนาลีนที่มีผลให้ร่างกายตื่นตัว นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังทำให้มีออกซิเจนอยู่เต็มปอดซึ่งส่งผลให้สมองตื่นตัว โดยถ้าเราเลือกออกกำลังกายในช่วงค่ำ ก่อนเวลาที่จะเข้านอนร่างกายจะยังมีอุณหภูมิที่สูงอยู่ และส่งผลให้การตื่นตัวนี้ลากยาวเป็นเวลานานขึ้นอีกค่ะ บางคนอาจจะเพลียแล้วหลับไปในช่วงแรก แต่พอกลางดึกก็อาจสะดุ้งตื่นขึ้นและนอนไม่หลับอีกเลยก็มีค่ะ
ช่วงเวลาที่ดี ออกกำลังกาย แก้อาการนอนไม่หลับ
การออกกำลังกายก่อนนอน ดีไหม? อย่างที่แอดมินบอกไปนะคะว่า มันมีข้อดีค่ะเพียงแต่เราต้องเลือกชนิดการออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมไปถึงควรทิ้งห่างช่วงเวลาออกกำลังกายก่อนเข้านอนสัก 3 ชั่วโมงขึ้นไป การออกกำลังกายก่อนนอนอย่างถูกวิธีและถูกเวลาจะส่งผลให้ร่างกายเกิดความผ่อนคลาย แก้อาการนอนไม่หลับ ทำให้หลับได้ง่ายขึ้นและหลับได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ เรามาดูช่วงเวลาที่ดีที่ควรออกกำลังกายกันค่ะ โดยแต่ละช่วงเวลาก็มี Zone ของการออกกำลังกาย หรือความเข้มข้นของการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

ช่วงเช้าหลังตื่นนอน สามารถเลือกออกกำลังกายในโซนที่มีความเข้มข้นสูงไปถึงระดับกลางได้ เช่น เดินเร็วหรือวิ่งเร็ว เริ่มสัก ตี 5-7 โมงเช้า ช่วงนี้จะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี สร้างความกระปรี้กระเปล่าของร่างกายให้พร้อมกับการใช้ชีวิตประจำวัน

ช่วงระหว่างวัน เวลาบ่าย 2-6 โมงเย็น เป็นการออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเลือกชนิดการออกกำลังกายในโซนระดับกลางถึงเบา เช่น ว่ายน้ำ, เดิน-วิ่งช้า ๆ บนสายพาน, ปั่นจักรยาน หรือโยคะ
โซนการออกกำลังกาย คืออะไร
โซนการออกกำลังกาย คือ ระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกาย เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 โซน ตั้งแต่เบาสุดไปจนถึงระดับเข้มข้นสูง โดยแบ่งตามเปอร์เซ็นต์อัตราการเต้นของหัวใจ
- โซน 1 Very Light เป็นการออกกำลังกายที่เบามาก รู้สึกไม่เหนื่อยมาก ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
- โซน 2 Light เป็นการออกกำลังกายแบบเบา รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย มีเหงื่อซึม ๆ ช่วยลดน้ำหนัก
- โซน 3 Moderate เป็นการออกกำลังกายระดับปานกลาง รู้สึกมีเหงื่อมากขึ้นและยังพูดเป็นประโยคได้ ช่วยลดน้ำหนักและไขมันได้ดี เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
- โซน 4 Hard เป็นการออกกำลังกายที่หนักขึ้น รู้สึกเหนื่อย พูดได้เป็นคำ ๆ หายใจเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ
- โซน 5 Very Hard เป็นการออกกำลังกายที่หนักที่สุด รู้สึกเหนื่อยที่สุด พูดได้ลำบากขณะออกกำลังกาย เหมาะสำหรับฝึกซ้อมกีฬาเพื่อเตรียมแข่ง
ออกกำลังกายเพื่อฟิตหุ่นหลังดูดไขมัน อย่าลืมตัวช่วย ชุดกระชับหลังดูดไขมัน My Shape!
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน เป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะสาว ๆ หลายคนถามว่าหลังดูดไขมันออกกำลังกายได้เมื่อไหร่ สำหรับใครที่ดูดไขมันมาประมาณ 2 สัปดาห์ คุณหมอก็แนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ ได้แล้วค่ะ อย่างการเดินช้า ๆ เพื่อฟื้นฟูให้ร่างกายแข็งแรงได้ไวขึ้น และหลังดูดไขมันไปแล้ว 1 เดือน ก็สามารถกลับมาออกกำลังกายได้ปกติ โดยต้องไม่ลืมใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน My Shape กันด้วยนะคะ เพื่อความฟิตของสัดส่วนพร้อมยกกระชับผิวหนังหลังดูดไขมัน



ออกกำลังกายก่อนนอน หลับสลาย ผ่อนคลาย
การเลือกออกกำลังกายแบบเบาก่อนนอนจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย คลายความตึงเครียด เป็นการเน้นการออกกำลังกายที่ได้ยืดเหยียด เพื่อลดความตึงและความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อ เรียกง่าย ๆ ถ้าจะออกกำลังกายก่อนนอนควรเน้นเรื่องความผ่อนคลาย ไม่ออกแรงมากเพราะจะทำให้เป็นการออกกำลังกายแล้วนอนไม่หลับได้
การออกกำลังกายก่อนนอนเป็นการเตรียมความพร้อมให้ทั้งร่างกายและจิตใจอยู่ในภาวะสบายผ่อนคลายที่สุด ซึ่งจะช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ หลับยาก แอดมินแนะนำการเดินรอบหมู่บ้าน ในสวนสาธารณะ เดินไปชมนกชมไม้ ชมผู้ชาย (อุ๊ย! อิอิ) ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ หรือจะเลือกเป็นการยืดเส้นยืดสายเบา ๆ หรือหากอยากจะวิ่งก็ให้วิ่งเหยาะ ๆ แบบวิ่ง Jogging ก็ดีงามค่ะ! โดยให้สังเกตการหายใจของตัวเองดูว่าต้องไม่เหนื่อยจนหอบ เอาแค่เหงื่อซึม ๆ ต้องยังพูดเป็นคำเป็นประโยคได้อยู่ และที่สำคัญเลยคือ ออกกำลังกายก่อนนอนเป็นเวลา 3 ชั่วโมงขึ้นไป ห้ามเร็วกว่านี้เด็ดขาด! ถ้าดื้อกัน ระวังจะนอนไม่หลับ หลับยาก ตาค้างจนถึงเช้า แล้วต้องมาบ่นกันว่าออกกำลังกายแล้วนอนไม่หลับ… แอดมินเตือนแล้วน้าาา!
โยคะก่อนนอนหลับสบาย
การฝึกโยคะก่อนนอนเป็นเหมือนการยืดกล้ามเนื้อที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันให้คลายตัวออก และโยคะก่อนนอนยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการปลดปล่อยทางจิตใจที่เคร่งเครียดมาทั้งวัน ให้จิตใจสงบลง ก่อนที่จะเข้านอนได้ด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลาย จึงมีผลต่อการนอนทำให้อาการหลับยากดีขึ้น เป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายก่อนนอนที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี โดยแอดมินยังมีท่าโยคะก่อนนอน 4 ท่า โดย 3 ท่าแรกใช้เวลาท่าละ 5 นาที และท่าสุดท้ายอีก 15 นาที รวมทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที สามารถฝึกโยคะก่อนนอนตามตัวอย่างด้านล่างได้เลยค่ะ
โยคะก่อนนอน ท่าที่ 1. Legs-up-the-wall
ท่านี้สามารถใช้เบาหรือหมอนหนุนตรงสะโพกได้นะคะ เริ่มด้วยการนอนหงายยกขาทั้ง 2 ข้างพาดที่กำแพง กางมือทั้ง 2 ข้างออกด้านข้างลำตัว โดยให้อยู่ในท่านี้ค้างไว้ 5 นาทีค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : mindbodygreen.com

โยคะก่อนนอน ท่าที่ 2. Reclined Butterfly
เริ่มจากนอนหงาย กางและหงายแขนทั้ง 2 ข้าง ไว้ด้านข้างของลำตัว จากนั้นแบะขาทั้ง 2 ข้างออก โดยให้เท้าทั้ง 2 ข้างประกบชิดไว้ ให้อยู่ท่านี้ค้างไว้ 5 นาทีเช่นกันค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : yogaholism.com

โยคะก่อนนอน ท่าที่ 3. Child’s Pose
ท่านี้สามารถยืดกระดูกสันหลังให้ยืดหยุ่น ผ่อนคลายได้ดีค่ะ เริ่มด้วยนั่งให้สะโพกทับบนส้นเท้า แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า โดยให้หน้าผากจรดกับพื้น ยืดมือทั้ง 2 ข้างไปด้านหน้าแนบกับพื้น ทำค้างไว้ 5 นาทีค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : yogapractice.com

โยคะก่อนนอน ท่าที่ 4. Corpse Pose
มาถึงท่าโยคะก่อนนอนท่าโปรดแอดมิน (อิอิ) เพราะดูเหมือนง่ายสุด ทำทีไรเหมือนจะหลับให้ได้เลยค่ะ ซึ่งท่านี้เป็นท่าฟื้นฟูร่างกายท่าสุดท้าย ช่วยให้ผ่อนคลาย เริ่มด้วยการนอนหงายและวางตำแหน่งของเท้าให้กว้างกว่าสะโพกเล็กน้อย โดยให้โฟกัสที่ลมหายใจเข้าและออกอย่างช้า ๆ หายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกลากยาว เหมือนเป็นการฝึกลมหายใจทำให้เกิดสมาธิมากยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งสามารถทำไปได้เรื่อย ๆ เป็นเวลา 15 นาทีค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : blog.alomoves.com

สรุป
ท้ายนี้ ถ้าจะถามว่า ออกกำลังกายก่อนนอน ดีไหม? แอดมินขอสรุปว่า ดีค่ะ ถ้าเราเลือกช่วงเวลารวมไปถึงชนิดของการออกกำลังกายที่เหมาะสม ซึ่งหากทำตามคำแนะนำที่แอดมินนำมาฝากวันนี้ ทำทุกวันเป็นประจำ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมในห้องนอนของเรากันด้วยนะคะ เช่น การหลีกเลี่ยงความเครียด สำหรับบางเรื่องปล่อยวางบ้างก็ดี งานจบวันแล้วก็ไม่ควรเอากลับมาคิดกันต่อ เอาเป็นว่าวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน! รวมไปถึงงดเครื่องดื่มคาเฟอีนก่อนนอน และจัดห้องนอนให้น่านอนอยู่เสมอ ตรงไหนสว่างไป ตรงไหนนอนแล้วไม่สบายตัว ก็ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนกันไป รับรองเลยว่าอาการหลับยากจะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ก่อนจากกัน แอดมินขอฝากผลิตภัณฑ์ดี ๆ อย่างชุดกระชับหลังดูดไขมัน My Shape ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจกันด้วยนะคะ นอนหลับฝันหวานกันแล้วก็อย่าลืมเอาใจใส่รูปร่างและสัดส่วนหลังดูดไขมันกันด้วย จะยิ่งช่วยให้เป็นสาวอารมณ์ดี เพราะนอนเต็มอิ่ม พร้อมรูปร่างที่สมส่วนนะคะ