Say Hi! ค่ะ สาวก My Shape วันนี้กลับมาพบกับแอดมินกันอีกเช่นเคยนะคะ ช่วงนี้เพื่อน ๆ รอบตัวแอดมินมีแพลนทำศัลยกรรม ทำสวยกันเป็นว่าเล่นเลยค่ะ หันไปทางไหนก็มีแต่คนอยากสวย! ทั้งเสริมจมูก ทำตาสองชั้น up size หน้าอก ดูดไขมัน พอเห็นเพื่อนจองคิวทำศัลยกรรมเสร็จสรรพ แอดมินก็หันไปเห็นสีหน้าสุดกังวลของเพื่อนค่ะ ถามไปถามมาก็ได้ความว่า “หลังศัลยกรรม เราต้องไปงานแต่ง” กังวลว่าอาการต่าง ๆ ทั้งบวม ทั้งรอยฟกช้ำจะหายทันไหม?
วันนี้แอดมินเลยจะมาแชร์วิธีลดบวมช้ำจากการผ่าตัดและหลังทำศัลยกรรม ที่แอดมินเคยได้รับคำแนะนำจากแพทย์เมื่อตอนหนีแฟนไปทำสวย! มาฝากค่ะ ทำแล้วได้ผล! หายไวติด Speed! รับรองว่าสวยทันออกงาน ไม่ต้องลางานยาว ๆ ให้เสียเวลาอีกด้วยค่ะ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่าาา
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ ได้ที่นี่เลยค่ะ
รอยฟกช้ำดำเขียวหลังผ่าตัด
เรามาเริ่มกันที่รอยฟกช้ำหลังการผ่าตัดทั่วไป หรือหลังการทำศัลยกรรมกันก่อนนะคะ รอยฟกช้ำถือว่าเป็นอาการปกติที่เราหลบหนียังไงก็ไม่พ้น โดยอาการช้ำเกิดจากเนื้อเยื่อได้รับการบาดเจ็บจากการผ่าตัด และเส้นเลือดฝอยแตกจนทำให้เลือดคั่งอยู่ใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้น เกิดเป็นรอยฟกช้ำดำเขียวนั่นเองค่ะ รอยฟกช้ำสามารถเกิดได้จากอุบัติเหตุอีกด้วย อย่างเวลาเราเดินชนโต๊ะชนเก้าอี้ (แอดมินเป็นบ่อย เพราะซุ่มซ่ามT_T) จากนั้นผ่านไปสักวันสองวัน รอยฟกช้ำดำเขียวก็จะมาพร้อมกับอาการปวด จับปุ๊บเด้งตัวปั๊บ! เพราะมันเจ็บมาก!
โดยรอยฟกช้ำจะเกิดได้เป็นสัปดาห์เลยค่ะ ส่วนรอยฟกช้ำที่เกิดจากแผลผ่าตัดจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผล ยกตัวอย่างที่บางคนเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบ Close ที่คุณหมอจะเปิดแผลในรูจมูกแค่ข้างเดียว แผลไม่ใหญ่ แน่นอนว่ารอยฟกช้ำหรืออาการบวมก็มักจะมีไม่มากเท่ากับคนที่เสริมจมูกแบบโอเพ่น ที่คุณหมอต้องเปิดแผลใหญ่กว่าเพื่อปรับโครงสร้างจมูก อีกประเด็นคือ รอยฟกช้ำจะหายไวหรือช้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเรา รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอีกด้วยค่ะ
ระยะรอยฟกช้ำ
หลังจากการผ่าตัดทุกชนิด หลังทำศัลยกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงอาการหลังดูดไขมัน จะเกิดเป็นรอยช้ำขึ้นทันทีค่ะ โดยรอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาการฟื้นตัวของร่างกายตามธรรมชาตินั่นเองค่ะ เราจะสังเกตเห็นได้เลยว่ารอยฟกช้ำที่เกิดจากที่เนื้อเยื่อได้รับความเสียหายจะมีทั้งสีแดง สีม่วง สีเขียว และสีเหลืองตามลำดับ ทั้งนี้ ระยะเวลาของรอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วยนะคะ
- ระยะเนื้อเยื่อและเส้นเลือดเสียหาย ภายใน 2-3 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม รอยฟกช้ำจะมีสีแดง
- ระยะเส้นเลือดฝอยแตก ขาดออกซิเจน ใน 1-2 วันหลังผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม รอยฟกช้ำเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ
- ระยะเส้นเลือดซ่อมแซมตัวเอง ในวันที่ 5-10 สีของรอยฟกช้ำค่อย ๆ จางและเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม
- ระยะฟื้นตัว 2 สัปดาห์จากนั้น รอยฟกช้ำจางลงมากเป็นสีเขียวอ่อน ๆ ค่อนไปทางสีเหลือง จนรอยฟกช้ำหายไปได้เองในที่สุด
เช็คด่วน! ถ้าช้ำแบบนี้ รีบหาหมอ!
- รอยฟกช้ำไม่ดีขึ้น เป็นมากกว่า 2 สัปดาห์
- มีอาการบวมอักเสบเพิ่ม ปวดแผลมากขึ้น
- มีไข้ร่วมด้วย
- รอยฟกช้ำขยายวงกว้างขึ้น
อาการบวมหลังผ่าตัด
มาถึงอีกหนึ่งอาการที่หลีกเลี่ยงได้ยากจริง ๆ นั่นก็คือ “อาการบวม” สาเหตุก็เช่นเดียวกับรอยฟกช้ำหลังผ่าตัดค่ะ เมื่อเนื้อเยื่อบาดเจ็บจากการทำผ่าตัดก็จะมีเลือดและน้ำเหลืองแตกออกและมากองรวมอยู่ในเนื้อเยื่อบริเวณนั้นค่ะ ซึ่งเจ้าเนื้อเยื่อจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่จะดูดซับเลือดและน้ำเหลืองไว้ ทำให้ผิวหนังมีการพองตัวขึ้นจนเห็นเป็นอาการบวมปูดขึ้นมาค่ะ
เมื่อเลือดและน้ำเหลือหยุดไหล ร่างกายเราจะมีการดูดซึมของเหลวเหล่านี้กลับสู่เส้นเลือดและเส้นน้ำเหลืองเองตามกลไกธรรมชาติค่ะ ซึ่งอาการบวมหลังผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน และหลังจากนี้อาการบวดจะดีขึ้นตามลำดับค่ะ
อาการบวมรวมถึงรอยฟกช้ำมักมาพร้อมกับอาการเจ็บปวดนะคะ ซึ่งถือเป็นอาการปกติ ทานยาแก้ปวดก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ และส่วนใหญ่หลังผ่าตัด หลังทำศัลยกรรม คุณหมอจะสั่งยาแก้ปวด ลดการอักเสบ ในปริมาณที่กะมาอย่างพอดีแล้ว สิ่งที่สำคัญเลยคือ การทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะยาแก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ ต้องทานให้หมด! ห้ามงอแงเด็ดขาดค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้อาการบวมหลังผ่าตัดบรรเทา แผลหายเร็ว และลดโอกาสที่จะติดเชื้อของแผลผ่าตัดอีกด้วยนะคะ
บวมแบบนี้ไม่ดี! เสี่ยงติดเชื้อ
- แผลแดง เจ็บ บวมเพิ่มระดับมากขึ้น
- แผลผ่าตัดมีกลิ่นเหม็น
- มีเลือดและหนองไหลจากแผล
- อาจมีไข้ร่วมด้วย
วิธีลดบวมช้ำ หายไว ด้วยสูตร 4+1 อ่านต่อได้ที่ วิธีลดอาการบวมของแผล
วิธีลดบวมช้ำ
มาถึงไฮไลท์ของเรา นั่นก็คือ “วิธีลดบวมช้ำ” ที่แอดมินได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเมื่อครั้งที่ไปทำสวยมา อิอิ^^ แอดมินใช้แล้วได้ผล แผลหายไวมาก ด้วย 3 วิธีลดบวมช้ำที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ ไม่ยาก แต่แอดมินขอแค่ว่า “อย่าลืม อย่าขี้เกียจ” เด็ดขาด ถ้าใครทำได้ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดแล้ว รับรองเลยว่าแผลหายเร็วสวยไว ชัวร์!
กินยาตามแพทย์สั่ง
หลังผ่าตัดหรือหลังทำศัลยกรรมทุกชนิด แพทย์จะสั่งทั้งยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวดของบาดแผล ซึ่งให้ทานเมื่อมีอาการปวดทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง หากไม่ปวดแล้วก็ให้หยุดทานได้ค่ะ นอกจากนี้ยังมียาแก้อักเสบ และยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นยาที่แพทย์เน้นย้ำเสมอว่าจะต้องทานให้ครบ ทานให้หมด! เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังผ่าตัดหรือหลังทำศัลยกรรมค่ะ
วิธีลดบวมช้ำด้วยอาหาร
อาหารที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการบวมช้ำ เป็นอีกหนึ่งวิธีลดบวมช้ำที่คุณหมอแนะนำค่ะ ที่เราเคยได้ยินบ่อย ๆ ก็จะเป็นแคปซูลใบบัวบก, น้ำฟักทอง รวมไปถึงน้ำมะพร้าว เพราะในผักผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่มีฤทธิ์ในการลดอาการบวมช้ำ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากแผลผ่าตัดได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
- น้ำฟักทองลดบวม อุดมไปด้วยวิตามิน A, C, E ต่อต้านการติดเชื้อ ลดการอักเสบ ลดอาการบวม ลดรอยช้ำ แผลสมานตัวเร็ว
- แคปซูลใบบัวบก มีกรดมาเดคาสสิก (Madecassic acid), กรดเอเชียติก (Asiatic Acid) และสารเอเชียติโคไซด์ (Asiaticoside) ที่มีฤทธิ์ในการสมานแผล แก้อักเสบ และลดอาการบวมได้ดี
- น้ำมะพร้าวลดบวม มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และกรดแอบไซซิก (ABA) ที่ช่วยต้านการอักเสบ ลดอาการบวมช้ำได้ไว
ประคบร้อน-เย็นเลือกให้ถูก
การประคบร้อนและประคบเย็นที่ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งวิธีลดบวมช้ำได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แต่ว่าหลายคนยังสับสนอยู่นะคะ ว่าประคบร้อนและประคบเย็นต่างกันอย่างไร และต้องเลือกใช้แบบไหนถึงจะช่วยบรรเทาอาการบวมและลดรอยช้ำได้ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจหลักการรักษาอาการบวมและอาการช้ำก่อนค่ะ
- ประคบร้อน ประคบอุ่น ช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนดี และบรรเทาอาการปวด
- ประคบเย็น ช่วยให้เส้นเลือดหดตัว หยุดการไหลของเลือดหลังผ่าตัด ทำให้มีการดูดซึมเลือดให้กลับเข้าหลอดเลือดได้เร็ว
สรุป วิธีลดบวมหลังศัลยกรรมจะต้องใช้ “การประคบเย็น” ประคบเป็นเวลา 48 ชั่วโมงแรก และวิธีลดรอยฟกช้ำจะต้องใช้ “การประคบร้อน” หลังจากประคบเย็นในวันที่ 3 เป็นต้นไป หรือจำง่าย ๆ ว่า “ร้อนแก้ช้ำ เย็นแก้บวม” นั่นเองค่ะ
แนะนำวิธีประคบอุ่นที่ถูกต้อง อ่านต่อได้ที่ ประคบอุ่นลดบวม
ทริค! ดูแลแผลผ่าตัด ฟื้นตัวไว สวยเร็ว
นอกจากการดูแลตัวเองด้วยวิธีลดบวมช้ำหลังผ่าตัดแล้ว แอดมินยังมีเทคนิคดูแลแผลผ่าตัดให้หายไว และลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อตามมาทีหลังด้วยนะคะ แต่ทั้งนี้ต้องปฎิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดนะคะ ใครอยากให้แผลผ่าตัดหายไว ไม่ต้องลางานหลาย ๆ วัน กลับไปใช้ชีวิตลั้นลาได้เพียงไม่กี่วัน ทีนี้จะแต่งหน้าแต่งตัวไปเดท หรือออกงานสำคัญก็หายห่วง ด้วยทริคดังต่อไปนี้ค่ะ
- แกะพลาสเตอร์ปิดแผลออกตามกำหนดที่แพทย์แนะนำ
- ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลอับชื้น แผลเปียก และเกิดการอักเสบ
- ทำความสะอาดแผลหลังผ่าตัด แผลดูดไขมัน ตามคำแนะนำของแพทย์
- งดอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ที่อาจมีเชื้อโรคเจือปน เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- ระมัดระวังการกระแทก หรือกระทบกระเทือนที่แผล
- งดยกของหนัก การเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายที่ออกแรงหนัก ๆ
- เมื่อแผลเริ่มแห้ง ห้ามแกะ-เกาสะเก็ดแผล
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ
เคล็ดลับแอดมิน! วิธีลดบวมช้ำหลังดูดไขมัน
แถมให้นิดค่ะ สำหรับใครที่มีแพลนจะไปดูดไขมัน ซึ่งนอกจากวิธีการลดอาการหลังดูดไขมัน เช่น การกินยาลดบวมตามที่แพทย์สั่ง, ทำความสะอาดบาดแผล, ห้ามให้แผลโดนน้ำ, ดื่มน้ำเยอะ ๆ และงดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ แพทย์จะมีการแนะนำให้สวมชุดกระชับกันอีกด้วยค่ะ เพราะชุดกระชับหลังดูดไขมันจะเป็นตัวช่วยรีดน้ำออกจากร่างกาย ลดอาการบวมช้ำ ช่วยหยุดเลือดได้ไว แผลก็จะหายไวตามไปด้วยนั่นเองค่ะ
หลายคนยังสงสัยว่า ชุดกระชับคืออะไร ทำไมต้องใส่หลังดูดไขมัน ซึ่งชุดกระชับหลังดูดไขมันก็คือ ชุดที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนไข้ใส่หลังดูดไขมันโดยเฉพาะ เนื่องจาก หลังดูดไขมันจะมีพื้นที่หรือช่องว่างระหว่างชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ เมื่อดูดไขมันออกไปจึงทำให้ผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ โดยการใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมันจะช่วยกระชับผิวให้ติดกับกล้ามเนื้อได้มากและเร็วขึ้น ซึ่งมีผลให้สัดส่วนเข้าที่ไว ไซซ์รูปร่างก็เล็กลง เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยส่งเสริมให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันดียิ่งขึ้นค่ะ
สนใจชุดกระชับหลังดูดไขมัน ทักแชทสอบถามแอดมินได้เลยค่ะ
'จริงหรือมั่ว?' ความเชื่อของวิธีลดบวมช้ำ
ท้ายนี้ แอดมินมีคำถามและความเชื่อเกี่ยวกับวิธีลดบวมช้ำที่ฟังจากปากต่อปาก แต่ก็ยังแอบสงสัยอยู่ว่า “มันจริงหรือเปล่า” กับ 2 ความเชื่อ นั่นก็คือ ยาหม่องช่วยลดฟกช้ำแบบที่โฆษณาไหม? และ นวดแก้ฟกช้ำ ทำแล้วดีจริงหรือ? เดี๋ยวเราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันดีกว่าค่ะ
ยาหม่องช่วยอาการฟกช้ำดำเขียวได้จริง?
หลายคนพอมีรอยฟกช้ำเกิดขึ้น ถึงกับรีบคว้ายาหม่องมาทาถูทาถูเลยใช่ไหมคะ! อย่าเพิ่งทำแบบนั้นค่ะ! เพราะความเชื่อนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้ เพราะยิ่งทายิ่งแย่ค่ะ ในยาหม่องที่มีฤทธิ์ร้อนและยิ่งจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เลือดมากองรวมกันได้มากขึ้น ทีนี้จะทำให้อาการบวมที่มีอยู่แล้วแย่ลงไปได้อีกนะคะ สรุปแล้ว “ยาหม่องช่วยลดรอยช้ำ” จึงเป็นความเชื่อที่ “ผิด” ค่ะ
นวดแก้ฟกช้ำได้มั้ย?
บางคนเข้าใจว่า การนวดจะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้นซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อต่อแผลผ่าตัด ลดอาการบวม ลดรอยช้ำ ถูกต้องค่ะ แต่ถูกครึ่งเดียวนะคะ เพราะถึงแม้ว่าการนวดจะเป็นการช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี แต่ไม่ควรใช้การนวดเพื่อลดรอยช้ำ ลดบวมของแผลผ่าตัดค่ะ เพราะการผ่าตัดส่งผลให้เนื้อเยื่อและเส้นเลือดมีอาการบอบช้ำ การออกแรงบีบนวดจะยิ่งทำให้แผลอักเสบมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมอาการให้แย่ลงกว่าเดิมด้วยค่ะ หากอยากนวดจริง ๆ ควรรอให้แผลหลังผ่าตัดหายสนิท รวมถึงรอให้รอยฟกช้ำดำเขียวและอาการบวมหายดีเสียก่อนนะคะ แอดมินเตือนแล้วนะ! ห้ามดื้อ!
ทิ้งท้าย!
อาการบวม รอยฟกช้ำดำเขียว ถือว่าเป็นอาการปกติที่เราต้องเจอหลังผ่าตัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จริงนะคะ แต่เราก็สามารถใช้วิธีลดบวมช้ำตามที่แอดมินแนะนำไว้ข้างต้นได้ เพื่อบรรเทาและฟื้นฟูบาดแผลจากการผ่าตัดได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ยิ่งขยันทำ ไม่พลัดวัน ไม่ละเลย ก็จะยิ่งทำให้อาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ หายไว กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้นค่ะ ครั้งหน้าแอดมินจะมีเคล็ดลับอะไรดี ๆ มาฝากกันอีก อย่าลืมกลับมาพบกันให้ได้นะคะ บ๊าย บายค่าาา!