วิธีลดไขมันหลัง อวดหลังสวย ไม่มีเนื้อปลิ้น!

          วันก่อนแอดมินนึกครึ้มอะไรไม่รู้ค่ะ แต่งตัวไปส่องกระจกเช็คหุ่นตัวเองทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แล้วแอดมินก็ถึงกับต้องร้องโวยวายเสียงดัง ก็ตอนที่ต้องใส่เสื้อชั้นในนี่สิคะ คุณพระ! ตอนหันหลังส่องกระจกก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีไขมันที่หลัง แบบใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้นค่ะ ปกติแล้วแอดมินไม่ได้มีปัญหาเรื่องไขมันตามร่างกายเลย มีแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ตามแขนขาและหน้าท้อง ถือว่าเป็นคนตัวเล็กเลยค่ะ แต่กลับมีไขมันปีกหลัง อีกอย่างหนึ่งคือ อีกไม่กี่อาทิตย์แอดมินต้องไปออกทริปเที่ยวทะเลกับเพื่อน ๆ แน่นอนค่ะ ว่าต้องหอบหิ้วเอาชุดบิกินีตัวโปรดไปด้วย แล้วจะทำอย่างไรดี?

          แอดมินเลยไม่รีรอรีบหาวิธีลดปีกหลังกันแบบเร่งด่วนเลย แล้วตอนนี้ลองทำมาได้สองสามวันแล้ว รู้สึกว่ามันเวิร์คเลยค่ะ วันนี้เลยจะมาแชร์วิธีลดไขมันหลังให้เพื่อน ๆ ชาว My Shape ที่มีปัญหาไขมันที่หลัง ใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้น ได้ลองนำไปใช้กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

          ไขมันปีกหลัง หรือ ไขมันที่หลัง ทำให้เวลาใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้น จะเป็นลักษณะที่มีก้อนเนื้อนิ่ม ๆ ปลิ้นอยู่ตามขอบเสื้อชั้นใจค่ะ แบ่งได้เป็นไขมันปีกหลังส่วนบนและส่วนล่าง ถ้าอยู่ด้านล่างก็จะเรียกว่าปีกเสื้อในล่าง ถ้าอยู่ด้านบนขอบเสื้อในก็เรียกว่าปีกเสื้อในบนค่ะ บริเวณไขมันปีกหลังมักเป็นส่วนที่สาว ๆ หลายคนไม่ค่อยให้ความสนใจและมักจะละเลย แต่เวลาใส่เสื้อผ้าโชว์แผ่นหลังแล้วมักจะโดนทักว่าตัวใหญ่ ตัวหนา หรือแม้แต่เวลาถ่ายรูปแล้วเพิ่งมาสังเกตเห็นทีหลัง ยิ่งเวลาที่ใส่เสื้อเอวลอย ชุดว่ายน้ำ สายเดี่ยว หรือเสื้อออกกำลังกายตัวเล็ก ๆ รัดรูปยิ่งจะเนื้อปลิ้นออกมาได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ

          ไขมันปีกหลังส่วนมากแล้วเกิดจากไขมันสะสมที่มาจากอาหารการกินของเรา กินแบบไม่ยั้ง ทั้งแป้ง ของหวาน น้ำหวาน ยิ่งสาว ๆ ออฟฟิศอย่างแอดมินที่กินจุกจิก แคลอรี่ต่อวันนี่ไม่อยากนับเลยค่ะ (มันน่าจะเกินไปมากจนน่ากลัว อิอิ) ถ้าพูดถึงการขยับตัวออกกำลังกายนี่เท่ากับ 0 เลยค่ะ

          สำหรับไขมันที่หลังหรือไขมันปีกหลังเกิดได้ในทั้งคนที่มีน้ำหนักมาก ๆ จนไปถึงคนที่มีน้ำหนักสมดุลอยู่แล้ว สัดส่วนอื่น ๆ ไม่ได้มีปัญหา แต่กลับมีไขมันที่หลังส่วนเดียวก็มีค่ะ อย่างแอดมินเนี่ยแหละค่ะ ที่มีปัญหาแค่ส่วนไขมันปีกหลังที่เดียวเลย T_T จะบอกไว้อีกอย่างเลยค่ะว่า ไขมันปีกหลังเนี่ยเป็นบริเวณทีมีมวลไขมันที่แน่นหนากว่าส่วนอื่น ๆ และกำจัดได้ยากมากอีกด้วย

          ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเซลล์ไขมัน (Fat Cell) กันก่อนนะคะ เซลล์ไขมัน คือ เซลล์ในร่างกายที่ทำหน้าที่สะสมไขมันที่ใช้เป็นแหล่งพลังงาน และเมื่ออยู่รวมกันในปริมาณมากจะกลายเป็นเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose Tissue) ถ้ามีอยู่มากจะทำให้เราอ้วนค่ะ โดยเจ้าเซลล์ไขมันเป็นเซลล์ที่มีอายุยืนมาก ๆ ค่ะ รวมไปถึงมีการขยายตัวโตขึ้นได้อย่างไม่จำกัดอีกด้วย! น่ากลัวมาก! ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกว่าเซลล์ไขมันคือส่วนไหน หน้าตาเป็นอย่างไร ให้ลองนึกตามแอดมินนะคะ เซลล์ไขมันเป็นกรอบวงกลมที่มีไขมันอยู่ในนั้น เมื่อเซลล์ไขมันเพิ่มจำนวนก็จะเกาะกันเป็นกลุ่มก้อนไขมันนั่นเองค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก : news.yale.edu

           เซลล์ไขมันจะขยายตัวเพิ่มจำนวนในช่วงอายุ 2-5 ปี จากนั้นจะไม่เพิ่มจำนวนแล้วแต่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นแทน โดยเมื่อเราโตขึ้น ร่างกายรับไขมันเพิ่มเข้ามาก็จะทำให้มีการเพิ่มทั้งจำนวนและขนาดของเซลล์ไขมัน ทีนี้แหละค่ะ เซลล์ไขมันที่รวมตัวกันมาก ๆ จะทำให้ลักษณะนูน ๆ ตามผิวหนัง ทำให้เราอ้วนขึ้น เกิดเป็นไขมันสะสมอยู่ทั่วร่างกาย ทั้งแขน ขา หน้าท้อง สะโพก ต้นขา นี่ก็รวมไปถึงไขมันที่หลัง ไขมันปีกหลัง จนเป็นสาเหตุที่ทำไมใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้นนี่เองค่ะ

          อย่างที่แอดมินบอกไปนะตะว่า ไขมันที่หลังเกิดจากการรับประทานอาหารแบบไม่ระมัดระวังของเรา บวกกับขาดการออกกำลังกาย อาจจะด้วยเหตุของการไม่มีเวลาหรือแม้กระทั่งเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายก็ตาม หากใครอยากจะลดไขมันปีกหลัง เราก็ต้องเริ่มกันที่การควบคุมอาหารและหันมาออกกำลังกายอย่างจริงจังแล้วค่ะ ใครที่กำลังท้อแท้อยู่ ให้ลองใช้เคล็ดลับที่แอดมินใช้อยู่ก็ได้นะคะ ถ้าเราชอบดาราหรือนักร้องผู้หญิงหุ่นสวย ๆ ใส่ชุดว่ายน้ำแล้วปัง ๆ ก็ปริ้นรูปออกมาติดฝาผนังหรือติดตามตู้เย็นเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เรา เวลาจะเปิดตู้เย็นหาของกินจุกจิกจะได้ฉุกคิดได้ สักพักมือเราจะค่อย ๆ ปิดตู้เย็นไปเองอัตโนมัติ อิอิ^^

ควบคุมอาหาร

           ไม่ว่าเราจะอยากลดไขมันส่วนไหนก็ตามในร่างกาย รวมไปถึงลดไขมันหลัง เราต้องเริ่มจากอาหารการกินแล้วเสียก่อนค่ะ ซึ่งวิธีลดไขมันหลังได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น การคำนวณแคลอรี่ต่อวัน ด้วยการรับประทานอาหารให้ได้ปริมาณแคลอรี่ที่เพียงพอในแต่ละวัน พยายามไม่กินเกินกว่าที่ร่างกายสามารถเผาผลาญได้หมด จึงจะไม่เกิดไขมันสะสมส่วนเกินหลงเหลือไว้นั่นเอง โดยผู้หญิงอย่างเรา ๆ ให้ทานอาหารได้ไม่เกิน 1,600 กิโลแคลอรี่ต่อวัน และหนุ่ม ๆ ควรทานไม่เกิน 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ที่สำคัญเลย คือ ลดปริมาณอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน อาหารทอด เนื้อสัตว์ติดมันเยอะ ๆ รวมไปถึงควรบริโภคน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชาด้วยนะคะ รับรองเลยว่าทำแล้วนอกจากจะช่วยลดไขมันหลังแล้ว ยังเหมาะกับคนที่ต้องการจะลดน้ำหนักแบบยั่งยืนและสุขภาพดีอีกด้วยนะคะ

ออกกำลังกายลดไขมันหลัง

          ควบคุมอาหารลดแคลอรี่กันแล้ว ทีนี้มาถึงการเพิ่มการเผาผลาญไขมันควบคู่กัน ด้วยวิธีลดไขมันหลังด้วยท่าลดไขมันด้านหลัง บอกลาเนื้อปลิ้นขอบเสื้อใน แค่วันละ 15 นาที ทำทุกวันรับรองว่าปัญหาใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้นจะหมดไป! จะใส่เสื้อโชว์หลัง บิกินีตัวจิ๋ว เสื้อเอวลอย สายเดี่วก็เปรี้ยวแบบสุด ๆ ไปเลยค่ะ!

ลดไขมันหลัง ท่าที่ 1 ยันกำแพง

          เริ่มด้วยการลดไขมันหลังท่าแรก คือ ท่ายันกำแพง ให้สาว ๆ ยืนหันหน้าเข้ากำแพง ให้เว้นระยะห่างเท่ากับความยาวแขนเรา จากนั้นใช้มือทั้ง 2 ข้างแปะที่กำแพง งอข้อศอกดันลำตัวเข้าหากำแพงข้างไว้ 10 วินาที แล้วยืดแขนดันลำตัวออกสู่ท่าปกติ ทำวนไปประมาณ 10-15 ครั้ง

ลดไขมันหลัง ท่าที่ 2 แพลงก์กับอุปกรณ์

          ท่าลดไขมันหนังท่านี้ นอกจากจะช่วยลดไขมันปีกหลังแล้วยังช่วยกระชับต้นขาอีกด้วยค่ะ เริ่มด้วยการคว่ำหน้าให้มือทั้ง 2 ข้างยันกับเก้าอี้หรือเตียงนอน โน้มตัวไปข้างหน้าให้ขา 2 ข้างเหยียดจนสุด ลงน้ำหนักที่ปลายเท้า จากนั้นงอข้อศอกพร้อมดันลำตัวลง ทำค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ลดไขมันหลัง ท่าที่ 3 นอนคว่ำยกแขน-ขา

          ท่านี้เหมือนท่าซุปเปอร์แมนกำลังบินเลยค่ะ! เริ่มด้วยการนอนคว่ำหน้าบนเสื้อโยคะ เหยียดขาและยืดแขนไปด้านหน้า จากนั้นยกลำตัวช่วงบนและช่วงล่างขึ้น ทำค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ทำซ้ำเหมือนท่าอื่น 10-15 ครั้งค่ะ

ลดไขมันหลัง ท่าที่ 4 ดันแขนและมือเข้าหากัน

          ท่าลดไขมันหลังท่านี้ เป็นการออกกำลังกายแบบโยคะค่ะ ทำง่าย ๆ โดยการพนมมือและกางข้อศอกออกด้านข้าง ให้มือที่พนมอยู่ตรงกึ่งกลางหน้าอก ออกแรงดันมือเข้าหากัน ทำค้างไว้ 1 นาทีแล้วผ่อนแรงลง ทำซ้ำ 10-20 ครั้ง ทำทุกวันรับรองลดไขมันปีกหลัง บอกลาปัญหาใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้นไปได้เลยค่ะ

          การลดน้ำหนักไม่ว่าจะทั้งการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกายไม่ใช่การกำจัดเซลล์ไขมันให้ออกจากร่างกายถาวรค่ะ แต่จะมีผลให้เซลล์ไขมันยุบขนาดตัวลง ฟีบลง หดลง ทำให้เซลล์ไขมันเล็กลงเท่านั้น แต่ปริมาณเซลล์ไขมันยังคงเท่าเดิม หากวันใดวันหนึ่งเราละเลยการออกกำลังกายและการควบคุมน้ำหนัก กลับมารับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูง เซลล์ไขมันก็จะกลับมามีขนาดขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อไม่สามารถเก็บกักไขมันที่ขยายใหญ่ได้อีกต่อไป เซลล์ไขมันก็จะแบ่งตัวออกเป็นเซลล์ไขมันตัวใหม่ ทีนี้ก็คงนึกภาพกันออกนะคะว่า ปริมาณและขนาดของเซลล์ไขมันที่เพิ่มขึ้นใหญ่ขึ้นจะทำให้เรากลับมามีสัดส่วนที่ใหญ่เหมือนเดิม ไขมันที่หลังก็กลับมาให้เราเครียดเวลาใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้นกันอีก!

          โดยเฉพาะในคนที่มีน้ำหนักตัวมากจะมีปริมาณและขนาดของเซลล์ไขมันจำนวนมาก มีขนาดใหญ่ ซึ่งการกำจัดเซลล์ไขมันให้ตายและหายไปอย่างถาวรก็คงมีแต่เพียงวิธีทางการแพทย์เท่านั้น อย่างการดูดไขมันปีกหลังซึ่งเป็นวิธีลดไขมันหลังที่ได้รับความนิยมในหมู่สาว ๆ เป็นอย่างมากค่ะ

          อย่างที่แอดมินเล่าไปข้างต้นนะคะว่า การออกกำลังกายไม่ได้ทำให้เซลล์ไขมันตายแต่ทำให้เซลล์ไขมันหดตัดฟีบลง ซึ่งจำนวนเซลล์ไขมันยังคงอยู่เท่าเดิม และมีแนวโน้มจะโตขยายตัวขึ้นหากเราตบะแตก! โดยการรับประทานอาหารแคลอรี่สูง ๆ กลับเข้าไปอีก ยิ่งคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายหรือแม้กระทั่งควบคุมอาหารก็แล้ว ออกกำลังกายอย่างหนักก็แล้ว แต่เจ้าไขมันดื้อด้านยังเกาะติดเป็นเงาตามตัว นั่นก็เพราะระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายเราไม่เหมือนกัน คนเผาผลาญได้ดีได้ไวก็โชคดีหน่อย แต่บางคน (รวมถึงแอดมิน) ก็เผาผลาญได้ช้าเหลือเกิน 

          เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่า “แล้วทีนี้จะกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายอย่างถาวรได้อย่างไร” แอดมินตอบแบบตรง ๆ เลยว่า “มีค่ะ” วิธีลดไขมันหลังแบบกำจัดเซลล์ไขมันอย่างตรงจุด เหมือนการโยนน้องเซลล์ไขมันออกจากร่างเราได้ง่าย ๆ แต่งานนี้เราทำเองไม่ได้ ต้องพึ่งคุณหมอเท่านั้น! โดยวิธีลดไขมันหลังด้วย “การดูดไขมันลดปีกหลัง” ค่ะ

          อย่างที่บอกไปนะคะว่า ไขมันที่หลังอันเป็นสาเหตุให้ใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้นเป็นมวลไขมันที่มีความหนาแน่นกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย ถ้าจะใช้วิธีการดูดไขมันปีกหลัง คุณหมอท่านอาจแนะนำให้ใช้เครื่องดูดไขมันที่ใช้พลังงานความร้อนเพื่อทำให้เซลล์ไขมันที่กระจุกตัวกันแน่น ๆ สลายตัวเป็นน้ำมันเหลว ๆ

          ส่วนเครื่องดูดไขมันพลังความร้อนที่นิยมใช้กันในวงการดูดไขมันก็คือ เครื่อง Vaser นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นเครื่องที่คลินิกและโรงพยาบาลนิยมใช้ในการดูดไขมันบริเวณที่มีมวลไขมันแน่นหนา อย่างไขมันที่หลัง รวมไปถึงใช้ดูดไขมันในผู้ชายด้วยนะ! เพราะหนุ่ม ๆ เค้ามักจะมีมวลไขมันแน่นเป็นพิเศษกว่าในสาว ๆ ค่ะ

          หลังดูดไขมันเพื่อกำจัดไขมันปีกหลังหรือไขมันที่หลังกันไปแล้ว การดูแลตัวเองสำคัญที่สุดเลยนะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อนที่หลายคนคงไม่อยากให้เกิด อาทิ อาการบวมช้ำที่หายช้า, ผิวเป็นคลื่น, ผิวย้วย รวมไปถึงหากใครไม่อยากให้ไขมันย้อนกลับมาหาเราได้อีก ก็ต้องไม่เพิ่มไขมันกลับเข้าร่างกายเราได้อีก

ใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน

ดูดไขมัน ไม่ใส่ชุดกระชับ ระวังผิวที่ดูดไขมันลดไขมันหลังจะย้วยยานแบบไม่รู้ตัวนะคะ หลายคนที่มองข้ามผ่านชุดกระชับหลังดูดไขมันไป เพียงเพราะคิดว่าหลังดูดไขมันแล้วก็จบกันไป เมื่อไขมันออกไปแล้ว รอให้แผลหายเอง เดี๋ยวสัดส่วนก็ดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงหลังดูดไขมันเราต้องพบเจอกับอาการข้างเคียงต่าง ๆ มากมาย ทั้งอาการบวมช้ำ มีเลือดซึม รวมไปถึงเมื่อดูดไขมันที่อยู่ชั้นกลางออกไป ทำให้เกิดช่องว่างตรงกลางระหว่างชั้นผิวหนังด้านบนและชั้นกล้ามเนื้อด้านด่างสุด จึงทำให้ผิวหนังไม่กระชับหลังดูดไขมัน ดังนั้น การใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ เนื่องจากความกระชับในชุดจะทำให้เลือดหยุดไหลเร็ว ป้องกันการติดเชื้อที่บาดแผล ช่วยรีดน้ำออกจากร่างกายจึงส่งผลให้อาการบวมหายไว รวมถึงช่วยให้ผิวหนังกระชับติดกับกล้ามเนื้อได้ดี ลดโอกาสที่หลังดูดไขมันผิวเป็นคลื่น ทำให้สัดส่วนที่ดูดไขมันออกไปเข้าที่ไว้อีกด้วยค่ะ

ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย

          หลังดูดไขมันแล้วก็ไม่ใช่กลับมากินอย่างราชาเหมือนเดิมนะคะ การดูดไขมันลดไขมันหลังเป็นวิธีกำจัดเซลล์ไขมันอย่างถาวรก็จริง แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เราต้องดูแลตัวเองหลังดูดไขมันอย่างเคร่งครัดกันอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาทำให้เราต้องนั่งกลุ้มใจกับปัญหาใส่เสื้อในแล้วเนื้อปลิ้นกันอีก ด้วยการควบคุมอาหาร กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ส่วนพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาลยังกินได้นะคะสาว ๆ เพียงแต่ให้ลดปริมาณลง รวมไปถึงหาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน วันละ 30-45 นาที ใครเบื่อหรือขี้เกียจออกกำลังกาย ลองหาเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทำให้เราสนุกกับการออกกำลังกาย เช่น เปิดเพลงที่ชอบ ดูหนัง ดูซีรีย์ ไปด้วยตอนที่เราออกกำลังกาย

นวดกระชับสัดส่วน

          หลังลดไขมันหลัวด้วยการดูดไขมันแล้ว คลินิกส่วนใหญ่จะแนะนำให้คนไข้นวดกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน ที่เป็นเครื่องพลังงาน RF หรือพลังงานคลื่นความถี่วิทยุนี่เองค่ะ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมถึงกระชับกล้ามเนื้อและชั้นเนื้อเยื่อ ส่งผลให้ผิวหนังทั้งหมดยกกระชับยกตัวขึ้นทันทีหลังทำ แต่ต้องทำมากกว่า 1 ครั้งนะคะถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยต้องนวด RF ครั้งละ 40-60 นาที ทำทั้งหมดประมาณ 15-20 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์) แนะนำในช่วงเดือนแรกหลังดูดไขมันให้นวด RF 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ ใครที่อยากให้สัดส่วนเข้าที่ไว ๆ ลดปัญหาก้อนไตแข็งหลังดูดไขมัน และปัญหาผิวเป็นคลื่น ต้องไม่ลืมนวด RF กันด้วยนะคะ