หน้าวีเชฟ เทรนด์หน้าสวยสะกดทุกองศา

หน้าวีเชฟ ถือว่าเป็นเทรนด์กรอบหน้าเรียวสวย ที่ได้รับความนิยมมากในหลายปีที่ผ่านมานะคะ แต่ในปัจจุบัน เทรนด์หน้าวีเชฟก็ยังฮิตกันอย่างต่อเนื่อง เพราะอะไรใช่ไหมคะ นั่นก็เพราะ ใบหน้าที่มีลักษณะรูปไข่หรือใบหน้าที่เรียวสวย เป็นรูปทรงที่ถือว่าสมส่วน มองแล้วมีมิติ ไม่ว่าสาว ๆ จะถ่ายรูปท่าไหน เอียงหน้า หน้าตรง ก็เป๊ะทุกมุม เหมือนนางแบบมืออาชีพ! แบบที่ไม่ต้องมานั่งแต่งรูปกันให้เสียเวลา ว่าแต่หน้าวีเชฟสุดอินเทรนด์ เราสามารถทำสวยแบบไหนได้บ้าง วันนี้แอดมิน My Shape ได้รวบรวมวิธีทำหน้าวีเชฟ ทั้งวิธีแบบไม่ต้องผ่าตัด อย่างการฉีดโบลดกราม ร้อยไหม เติมคาง รวมถึงวิธีศัลยกรรมวีไลน์ วันนี้ใครอยากเข้าแก๊งค์หน้าวีเชฟ สวยแบบสายเกา(หลี) ต้องไม่พลาดนะคะ!

หน้าวีเชฟ คือ ใบหน้าหรือโครงหน้าที่มีลักษณะเป็นรูปไข่ รูปวงรี โดยต้องมีความยาวมากกว่าความกว้างของใบหน้า มีบริเวณหน้าผากที่กว้างกว่าบริเวณกราม ส่วนกรามต้องไม่กว้าง ไม่บาน และมีรูปคางที่โค้งมนได้รูปสวย ถ้าลากเส้นจากกราม (แนวติ่งหู) มาจนถึงคางก็จะได้รูปตัว V อย่างเห็นได้ชัด หรือมองรวม ๆ แล้วเป็นรูปทรงไข่ที่คว่ำลงเลยค่ะสาว ๆ

หน้าวีเชฟ หรือ ใบหน้ารูปไข่

โดยหน้าวีเชฟที่ได้รูปสวยจะต้องมีองค์ประกอบบนในหน้าที่สมดุล หรือที่เรียกว่าสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) ด้วยค่ะ ซึ่งแบ่งเป็นอัตราส่วน ⅓ ส่วนแรกนับจากบริเวณไรผมมาถึงที่คิ้ว ส่วนถัดมานับจากส่วนคิ้วลงมาจนถึงปลายจมูก ส่วนสุดท้ายนับจากปลายจมูกของสาว ๆ ไปจรดที่ปลายคาง โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ต้องมีอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน บวกกับรูปหน้าวีเชฟที่มีกรอบหน้าคมชัด

สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio)

กรอบหน้าที่ไม่รูปสวยที่เป็นอุปสรรคของการมีหน้าวีเชฟ เกิดได้จากหลายปัจจัยเลยค่ะ ทั้งตัวโครงสร้างใบหน้าเดิม เช่น กระดูกและกล้ามเนื้อ และสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง อย่างไขมันสะสมที่เหนียง หรือที่แก้ม สาว ๆ บางคนก็มีปัญหาแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ก็มีหลายคนเลยมีหน้าอ้วนกลม ชนิดที่ว่าปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันค่ะ

• กระดูก บริเวณโหนกแก้มและกราม นับว่าเป็นจุดที่ทำให้หน้าบาน หน้าอ้วน โหนกแก้มใหญ่
• กล้ามเนื้อ บริเวณกราม สังเกตง่าย ๆ โดยการกัดฟัน สาว ๆ ที่มีกรามใหญ่ กรามจะโผล่ขึ้นมาเห็นได้ชัดเจน
• ไขมันสะสม บริเวณใบหน้าก็มีไขมันสะสม หรือไขมันส่วนเกินได้เหมือนกับลำตัว โดยเฉพาะบริเวณแก้ม และตามกรอบหน้า ใต้คาง (คางสองชั้น, เหนียง)
• โครงสร้างคางที่สั้น คางตัด มักจะทำให้หน้าดูไม่เรียว หน้าสั้นไม่ได้สัดส่วน ไม่เป็นหน้าวีเชฟ

การลิฟกรอบหน้าหรือการทำหน้าวีเชฟ โดยวิธีทางการแพทย์มีอยู่มากมาย และได้รับความนิยมสูงมาก สำหรับใครที่กลัวการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือเงินในกระเป๋ายังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดใหญ่ ก็สามารถใช้วิธีทำหน้าวีเชฟแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่มีให้เลือกหลากหลายวิธี ทั้งการฉีดโบลดกราม, การร้อยไหม หรือการฉีดสารเติมเต็ม ซึ่งวิธีไหนจะเหมาะกับสาว ๆ คนไหนบ้าง เราไปส่องดูพร้อม ๆ กันค่ะ

ฉีดโบลดกราม

ฉีดโบท็อกลดกราม เป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้หน้าวีเชฟที่ป๊อปปูล่าสำหรับสาว ๆ มาก เพราะสาวเอเชียรวมถึงสาวไทยบ้านเรา ส่วนใหญ่มักมีปัญหากรามใหญ่ ทำให้หน้าดูบาน ซึ่งนอกจากปัญหาจากกรามใหญ่จากโครงสร้างที่ได้จากพันธุกรรมแล้ว บริเวณกรามยังเป็นส่วนที่ต้องมีการใช้งานหนัก เลยทำให้เป็นตัวส่งเสริมทำให้กรามยิ่งใหญโตมโหฬารค่ะ เช่น คนที่ชอบเคี้ยวน้ำแข็ง ขนมเหนียว ๆ บ่อย ๆ 

การฉีดโบลดกรามจะช่วยให้กรามเราเล็กลงได้ ด้วยการทำงานของตัวยาที่จะเข้าไปทำกล้ามเนื้อกรามไม่ทำงาน เมื่อกล้ามเนื้อไม่ทำงานก็จะทำให้มีขนาดหดลง ส่งผลให้กรอบหน้าดูเรียวขึ้น หน้าวีเชฟมากยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งฉีดโบลดกรามครั้งนึงจะให้ผลนานประมาณ 4-6 เดือน แต่หลังจากนี้สาว ๆ สามารถกลับไปฉีดซ้ำได้

ร้อยไหมปรับหน้าวีเชฟ

ร้อยไหมหน้าเรียวเพื่อปรับหน้าวีเชฟ ก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมความงามยอดฮิต เพราะทำแล้วก็อยู่ได้นานพอสมควรประมาณ 1-2 ปี เลยค่ะ โดยเป็นการใช้ไหมละลายที่ใช้สำหรับทางการแพทย์ ซึ่งไหมที่ร้อยเข้าไปจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมาพันตามเส้นไหมที่ร้อยเข้าไป ทำให้ผิวเกิดการตึงรั้ง ใบหน้าจึงยกกระชับ ปรับรูปหน้า กรอบหน้า ให้เรียวสวย และยังช่วยแก้ปัญหาแก้มหย่อนคล้อย รวมถึงลดริ้วรอยได้อีกด้วยค่ะ

หลังร้อยไหมปรับหน้าวีเชฟ จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน และเส้นไหมจะเริ่มมีการสลายตัวได้เองภายใน 6 เดือน แบบนี้สาว ๆ อาจจะสงสัยนะคะว่า ถ้าละลายใน 6 เดือน แบบนี้ผลลัพธ์มันจะอยู่เป็นปีได้อย่างไร แบบนี้ค่ะสาว ๆ ถึงแม้ไหมจะลายไปแล้ว แต่การที่คอลลาเจนถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี่แหละคะคือ ผลลัพธ์ที่จะอยู่ไปได้ 1-2 ปีอย่างที่แอดมินบอกไว้ข้างต้นเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของคุณหมอกันด้วยนะคะ

มาถึงวิธีทำหน้าวีเชฟ แบบผ่าตัดกันบ้างนะคะสาว ๆ สำหรับใครที่อยากแก้ไขหน้าบาน หน้ากลม แบบถาวร โดยไม่หวั่นกับการผ่าตัด มีเวลาพักฟื้น แอดมินก็แนะนำวิธีทำหน้าวีเชฟ อย่างการเสริมคางด้วยซิลิโคน และการทำศัลยกรรมวีไลน์ ที่ตอนนี้ไม่ต้องบินไม่ทำไกลถึงเกาหลี ทำที่ไทยก็ได้หน้าวีเชฟแบบสาวแดนกิมจิได้ เพราะแอดมินคิดว่า คุณหมอที่ไทยก็มีฝีมือไม่แพ้ชาติไหนเลยนะคะ 

โดยต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่าแบบแผลด้านนอกก็อาจทำให้เห็นแผลเป็นได้ แต่ก็ดูแลแผลผ่าตัดได้ง่ายกว่า ขณะที่การเปิดแผลด้านใน มีข้อดี คือ ไม่มีรอยแผลเป็นด้านนอก แต่การดูแลตัวเองทำได้ยากเอาเรื่องเลยค่ะ เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากเศษอาหารที่อาจติดอยู่ในแผล ฉะนั้นแล้ว ต้องดูแลโดยการบ้วนปากทุกครั้งหลังทานอาหาร และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดนะคะสาว ๆ

ศัลยกรรมวีไลน์

การทำศัลยกรรมวีไลน์ เป็นการผ่าตัดกระดูกบริเวณใบหน้า ทั้งผ่าตัดลดโหนกแก้ม ตัดกราม เหลาคางที่ตัดทู่ และการผ่าตัดขากรรไกรที่ผิดรูป หรือผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร เพื่อปรับรูปหน้าวีเชฟ เป็นการผ่าตัดที่ให้ผลลัพธ์ถาวร การทำศัยกรรมวีไลน์ ยังเหมาะกับคนที่มีโครงหน้าไม่สมส่วน หน้าเบี้ยว หน้าไม่สมมาตร แต่เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่เกี่ยวกับกระดูก สาว ๆ ที่อยากทำศัลยกรรมวีไลน์ก็ต้องเตรียมตัวลางานกันอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์เลยค่ะ

การทำศัลยกรรมวีไลน์ เป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากแพทย์สูงมาก ๆ เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ เสียเลือดเยอะ และใบหน้าของเรายังเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทเยอะมาก ๆ เลยค่ะ โดยการทำศัลยกรรมวีไลน์จะต้องผ่าตัดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกระดูกใบหน้าและขากรรไกรโดยตรง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมวีไลน์ หรือตัดกราม เหลาโหนกแก้ม สาว ๆ จะต้องพิจารณาจากตัวแพทย์, เทคโนโลยีที่ใช้ และต้องดูรีวิวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ

หลังทำศัลยกรรมวีไลน์ หรือการตัดกราม จำเป็นที่จะต้องใส่ผ้ารัดหน้าหรือที่รัดเหนียงนะคะ เพราะหลังผ่าตัดกระดูกจะยังไม่มีการเชื่อมติดกัน ดังนั้น กระดูกจึงอาจมีการเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา การใส่ผ้ารัดหน้าจะเป็นเหมือนการล็อคโครงหน้าได้ชั่วคราว ทำให้ใบหน้าไม่ผิดรูป และยังช่วยให้อาการบวมช้ำต่าง ๆ ลดลงอีกด้วยนะคะสาว ๆ

หลังดูดไขมันกรอบหน้า ดูดไขมันเหนียง ก็มีความจำเป็นต้องใส่ผ้ารัดหน้าเช่นเดียวกัน รวมไปถึงหลังการดูดไขมันในตำแหน่งอื่น ๆ บนร่างกาย ก็ต้องใส่ชุดกระชับ เนื่องจากหลังดูดไขมันจะมีช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อและผิวหนังชั้นบน การใส่ผ้ารัดหน้าจะช่วยให้ผิวกระชับติดกลับกล้ามเนื้อได้ไวขึ้น ลดการเกิดพังผืด ยิ่งใส่ยิ่งหน้าวีเชฟไวแน่นอนค่ะ

สำหรับที่รัดเหนียง My Shape ออกแบบมาเพื่อใช้กระชับสัดส่วนบริเวณใบหน้าที่สามารถใช้ได้อย่างครอบคลุม ทั้งหลังการดูดไขมันกรอบหน้า, การทำวีไลน์ หรือการทำศัลยกรรมเกี่ยวกับโครงหน้า ด้วยการดีไซน์และการเลือกใช้วัสดุที่สามารถซัพพอร์ตพยุงและกระชับกรอบหน้าได้เป็นอย่างดี

ด้วยเนื้อผ้าที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนต่อผิวพรรณ รวมไปถึงการตัดเย็บที่ประณีต เย็บตะเข็บไว้ด้านนอก ใส่แล้วไม่คัน ไม่บาดผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ความกระชับของเนื้อผ้าและแรงบีบรัดยังกระจายตัวได้อย่างทั่วถึงและเหมาะสม สามารถใส่ได้ทั้งในเวลากลางวันและเวลากลางคืนเลยนะคะ ดีงามสุด ๆ!!